‘แพ้ต่างหูจนอ่อนใจ
เกือบคิดจะเลิกใส่ต่างหูแล้วล่ะ’
ลูกค้าหลายคน
เริ่มต้นคุยกับเราด้วยประโยคนี้
,
.........อาการแพ้คืออะไรนะ?.........
‘แพ้’
เป็นปฏิกิริยาตอบสนองสิ่งแปลกปลอม
ของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
เมื่อมีอาการแพ้
ร่างกายจะผลิตสาร
ที่ต่อต้านสิ่งแปลกปลอมนั้น
บางคน หูจะมีอาการแดง และคัน แทบจะทันที
หลังจากที่ใส่ต่างหูที่แพ้
บางคนแพ้ ‘แต่ไม่แสดงอาการ’
พอสัมผัสต่างหูนั้นเข้าบ่อยๆ
ก็อาจก่อให้เกิดการแพ้รุนแรงได้
,
..........เราแพ้อะไรในต่างหู?..............
หนึ่งในอาการแพ้ที่พบบ่อย
เกิดจากนิกเกิลที่ชุบเคลือบเครื่องประดับ
นิกเกิลให้ความขาว มันวาว
และทนต่อการเกิดoxidation
ทำให้เครื่องประดับเงินหมองคล้ำช้า
แต่สิ่งที่แถมมาด้วยนั้นคือ!
นิกเกิลเป็นโลหะที่มีพิษต่อร่างกาย
สามารถก่อให้เกิดอาการคัน
ระคายเคือง บวม อักเสบ
และยังสามารถอักเสบได้นาน2-4สัปดาห์
หลังการสัมผัส
หากสูดดมฝุ่นนิกเกิลเข้าไปเยอะ
จะก่อให้เกิดอาการระคายเคือง
ต่อระบบทางเดินหายใจ
และเป็นหนึ่งสาเหตุของมะเร็งปอดได้เลย
นอกจากนี้
นิกเกิลยังเคลือบ
และผสมในวัสดุชนิดอื่นได้ด้วย อย่างเช่น
สแตนเลส
ก็มีส่วนผสมของนิกเกิลในปริมาณมาก
ที่อาจก่อให้เกิดการแพ้ได้
เครื่องประดับบางชิ้นที่อาจเคลือบด้วยเงิน
เพียงแค่พื้นผิวด้านนอก
แต่หากเกิดการขีดข่วน
หรือเกิดรอยแตก
เราก็อาจจะสัมผัสวัสดุที่เราแพ้ ด้านในต่างหูได้เช่นกัน
,
……….คนที่แพ้ ก็ต้องดูแลตัวเอง..................
สำหรับคนแพ้ง่าย
ควรทำความสะอาดต่างหูด้วยน้ำเกลือทุกครั้งก่อนใส่
สิ่งสำคัญเลย คือการสังเกตุตัวเอง
หากเกิดอาการ ไม่สบาย
หรือเริ่มคัน ควรถอดต่างหูคู่นั้นออกทันที
ทำความสะอาดรอบรูหูด้วย สำลีที่ชุบน้ำเกลือ
จะทำให้แผลหายไวและลดอาการติดเชื้อได้
...........ว่าด้วยเรื่องของ Silver หรือว่าเงิน..............
เงินเป็นที่รู้จัก
ตั้งแต่ช่วง4000ปีก่อนคริสตศักราช
เป็นโลหะชนิดที่3
ที่ถูกนำมาใช้ ต่อจากทอง และ ทองแดง
‘เงิน’
ถูกนำมาใช้เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
ก่อนที่เราจะรู้จักยาปฏิชีวนะในปี 1940ซะอีก
มีการบันทึกว่า
ในยุคกรีก โรมัน อียิปต์โบราณ
มีการใช้ภาชนะเงิน เพื่อเก็บอาหาร ไวน์
และสามารถเก็บน้ำดื่ม
ให้สะอาดบริสุทธิ์ อยู่ได้นานเป็นปี
ในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง
ชาวมาเซโดเนียนใช้แผ่นเงินห่อบาดแผล
เพื่อลดการติดเชื้อจากการผ่าตัด
จนในปัจุบัน
ด้วยคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อ
และป้องกันเชื้อโรคของเงิน
จึงมีการเคลือบเงินบนอุปกรณ์ทางการแพทย์
อย่างเช่น
ท่อหายใจ ,สายสวน
หรือแม้แต่ถูกนำไปใช้กับกระดูกเทียม
ทั้งนี้ยังมีการใช้เงินในหลายประโยชน์
หลายวัฒนธรรมในประวัติศาสตร์
(ไว้จะมาเขียนเล่าอีกนะคะ)
,
แม้เงินแท้
จะเป็นวัสดุธรรมชาติที่ป้องกันการติดเชื้อได้
แต่ร่างกายของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน
การแพ้นั้น
อาจมีสาเหตุมาตั้งแต่พันธุกรรม
วิถีชีวิต อาหารที่เราทาน
หรือแม้แต่ระบบภูมิต้านทานในร่างกายทำงานผิดปกติ
การดูแล
และสังเกตุร่างกายของเราเองจึงเป็นสิ่งสำคัญ
รวมถึง
การรู้ไปถึงวัสดุ
และสารประกอบที่อยู่ในเครื่องประดับชิ้นนั้นๆ
ก็มีความสำคัญ
เหมือนกับการอ่านฉลาก
ที่ติดข้างแพคเกจจิ้งอาหาร
ว่าอาหารนั้น ใส่อะไรบ้าง ใส่ผงชูรสมั้ย
ใส่สารปรุงแต่งอะไรบ้าง
แม้ทานแล้วอาจไม่ออกอาการแพ้ทันที
แต่เราก็ไม่อาจรู้ได้เลยว่า
ร่างกายจะสะสมสิ่งที่เป็นพิษนั้นไว้
จนก่อให้เกิดโรคในอนาคตรึเปล่า
,
ในเมื่อเราใส่ใจในการเลือกทานอาหาร
ตามประโยคคลาสสิคที่ว่า
You are what you eat.
การใส่ใจเลือกของธรรมชาติที่ปลอดภัย
มาใส่บนตัวของเรา
ก็ทำให้เราสบาย และแข็งแรง
ได้ด้วยเหมือนกันนะ
ขอเพิ่มอีกประโยคนึงว่า
You are what you wear;)
